top of page

เอชไอวี (HIV) | ทำความเข้าใจโรค อาการ การป้องกัน และการรักษา

hivteam
เอชไอวี (HIV) | ทำความเข้าใจโรค อาการ การป้องกัน และการรักษา

เอชไอวี (HIV) หรือไวรัสที่ทำให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่ทั่วโลกให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการติดเชื้อเอชไอวีสามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง และในกรณีที่ไม่ได้รับการรักษาอาจพัฒนาไปเป็นโรคเอดส์ (AIDS) ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเชื้ออื่น ๆ ที่รุนแรงและอันตรายมากขึ้น ในบทความนี้ เราจะพูดถึงเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับเอชไอวี โดยเฉพาะอาการ การติดต่อ แนวทางป้องกัน และการรักษา พร้อมแนะนำสถานที่ตรวจและรักษาเอชไอวีที่ไว้ใจได้อย่าง ฮักษาคลินิก กลางเวียง เชียงใหม่ ซึ่งมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและการรักษาที่เหมาะสม

เอชไอวี คืออะไร ?

เอชไอวี (HIV) ย่อมาจาก Human Immunodeficiency Virus เป็นไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์ T-helper หรือ CD4 T cells ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อ หากระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายจนไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้ร่างกายไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อหรือโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ การติดเชื้อเอชไอวีจะไม่ทำให้เกิดอาการทันทีทันใด และอาจใช้เวลานานหลายปีจนกว่าผู้ติดเชื้อจะมีอาการของโรคเอดส์ (AIDS) ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและเหมาะสม โรคจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความยาวชีวิตของผู้ติดเชื้อ

ใครบ้างที่เสี่ยงต่อเอชไอวี ?

ใครบ้างที่เสี่ยงต่อเอชไอวี ?
  • ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย โดยเฉพาะผู้ที่มีหลายคู่ครองหรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีประวัติการติดเชื้อเอชไอวี โดยไม่ป้องกันเสมอ

  • ผู้ใช้สารเสพติดที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่นเป็นช่องทางหลักในการติดต่อเอชไอวี ผ่านการสัมผัสเลือดที่ปนเปื้อนเชื้อ

  • ผู้ที่มีประวัติการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น ซิฟิลิส หรือหนองในเทียม ทำให้ความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มขึ้น

  • ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่ทราบสถานะเอชไอวี โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ทราบสถานะของคู่รัก หรือไม่มีการตรวจเอชไอวีอย่างสม่ำเสมอ

  • ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มชายรักชาย กลุ่มคนที่มีเพศสัมพันธ์ในลักษณะนี้มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อเอชไอวีเนื่องจากอัตราการติดเชื้อในกลุ่มนี้สูงกว่ากลุ่มอื่น

  • หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวี การติดเชื้อจากแม่สู่ลูกสามารถเกิดขึ้นได้ในระหว่างการตั้งครรภ์ การคลอด หรือการให้นมบุตร

เอชไอวี อาการที่ควรสังเกต

อาการของการติดเชื้อเอชไอวีมักจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสุขภาพของผู้ป่วย โดยปกติแล้วการติดเชื้อเอชไอวีจะมีอาการตามระยะต่าง ๆ ดังนี้

ระยะเฉียบพลัน

ในระยะนี้ผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการคล้ายไข้หวัดหรือโรคติดเชื้อทั่วไป โดยอาการจะปรากฏขึ้นภายใน 2 - 4 สัปดาห์ หลังจากได้รับเชื้อ ซึ่งบางคนอาจจะไม่สังเกตเห็นอาการเลย ในขณะที่บางคนอาจมีอาการที่ชัดเจน เช่น

  • ไข้สูง

  • เจ็บคอ

  • ปวดกล้ามเนื้อและข้อ

  • ปวดหัว

  • ผื่นที่ผิวหนัง

  • ต่อมน้ำเหลืองบวม

อาการเหล่านี้มักจะหายไปเองภายในระยะเวลา 2 - 4 สัปดาห์ ซึ่งบางครั้งทำให้ผู้ติดเชื้อไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวี

ระยะสงบ

ในระยะนี้ไวรัสจะยังคงทำลายระบบภูมิคุ้มกันอย่างช้า ๆ โดยในช่วงนี้ผู้ติดเชื้ออาจไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ เลย หรือบางคนอาจมีอาการเล็กน้อยที่ไม่ชัดเจน เช่น

  • น้ำหนักลดลงเล็กน้อย

  • เหนื่อยล้า

  • มีอาการท้องเสียเรื้อรัง

ระยะนี้อาจยาวนานหลายปีและหากไม่ได้รับการรักษาอาการจะค่อย ๆ แย่ลง จนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายอย่างรุนแรง

ระยะเอดส์

หากไม่ได้รับการรักษา ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ติดเชื้อจะถูกทำลายจนไม่สามารถป้องกันร่างกายจากการติดเชื้ออื่น ๆ ได้ ผู้ที่มีเอชไอวีในระยะนี้อาจเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคปอดบวม การติดเชื้อรุนแรงในช่องปากและลำคอ หรือมะเร็งบางประเภท

การวินิจฉัยเอชไอวี

การวินิจฉัยเอชไอวี

การวินิจฉัยเอชไอวีสามารถทำได้หลายวิธีโดยใช้เทคโนโลยีการตรวจที่มีความแม่นยำสูงในปัจจุบัน ขั้นตอนการวินิจฉัยเอชไอวีเริ่มต้นจากการทำการตรวจเลือดเพื่อหาสารพันธุกรรมหรือโปรตีนของไวรัสในร่างกาย การตรวจเหล่านี้จะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบการติดเชื้อได้ตั้งแต่ระยะแรก

การตรวจเอชไอวีมักจะมีหลายประเภท ได้แก่

  1. Anti-HIV Testing การตรวจหาแอนติบอดีที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อเอชไอวี (Anti-HIV) สามารถตรวจพบการติดเชื้อได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ หลังได้รับเชื้อ

  2. HIV p24 Antigen Testing การตรวจหาโปรตีนเฉพาะของเชื้อเอชไอวีที่เรียกว่า p24 antigen สามารถตรวจพบเชื้อได้ในช่วง ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังได้รับเชื้อ

  3. HIV Ag/Ab Combination Assay การตรวจที่รวมการหาแอนติเจน p24 และแอนติบอดี Anti-HIV ในขั้นตอนเดียว เรียกอีกชื่อว่า Fourth Generation Test สามารถตรวจพบการติดเชื้อได้ในช่วง ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังได้รับเชื้อ

  4. Nucleic Acid Test (NAT) การตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อเอชไอวี (RNA หรือ DNA) มีความไวและรวดเร็วที่สุด สามารถตรวจพบการติดเชื้อได้ภายใน ประมาณ 7 วัน หลังได้รับเชื้อ

แนวทางป้องกันเอชไอวี

การป้องกันเอชไอวีสามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยมีแนวทางที่สำคัญดังนี้

  1. ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ : การใช้ถุงยางอนามัยถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ โดยถุงยางอนามัยจะช่วยป้องกันการสัมผัสสารคัดหลั่งจากคู่เพศ

  2. หลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน : ผู้ที่ใช้เข็มฉีดยาควรหลีกเลี่ยงการใช้เข็มร่วมกับผู้อื่น เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากเลือดที่ปนเปื้อน

  3. การใช้ยา PrEP และ PEP : PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) เป็นยาที่ใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในคนที่ยังไม่ติดเชื้อ ขณะที่ PEP (Post-Exposure Prophylaxis) เป็นยาที่ใช้หลังจากที่มีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อเอชไอวี เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

  4. ตรวจเอชไอวีเป็นประจำ : การตรวจเอชไอวีเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ที่มีหลายคู่ครองหรือผู้ที่ใช้สารเสพติดที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน จะช่วยให้ทราบสถานะของตนเองและลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อให้กับผู้อื่น

การรักษาเอชไอวี

การรักษาเอชไอวี

ปัจจุบันการรักษาเอชไอวีสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยยาต้านไวรัส (ART) ซึ่งช่วยลดปริมาณไวรัสในร่างกายให้อยู่ในระดับที่ตรวจไม่พบ ทำให้ผู้ติดเชื้อสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างยาวนานและมีสุขภาพดี เช่นเดียวกับคนปกติทั่วไป ยาต้านไวรัสยังช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไปยังคนอื่น หากผู้ติดเชื้อใช้ยาอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์

ตรวจและรักษาเอชไอวีได้ที่ ฮักษาคลินิก กลางเวียง เชียงใหม่

ฮักษาคลินิก กลางเวียง เชียงใหม่ เป็นสถานพยาบาลที่ได้รับการยอมรับในด้านการตรวจและรักษาเอชไอวี โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการแก่ทุกคนที่ต้องการตรวจสอบสถานะของตนเองหรือรับการรักษา บริการที่ฮักษาคลินิก กลางเวียง ได้แก่

  • การตรวจเอชไอวี (HIV Test): ผลตรวจจะออกภายในไม่กี่นาที แม่นยำ ช่วยให้คุณทราบสถานะของตนเองโดยเร็ว

  • การรักษาด้วยยาต้านไวรัส (ART): การรักษาด้วยยาที่ช่วยควบคุมไวรัสให้ไม่สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย

  • คำแนะนำด้านการป้องกัน: การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีการป้องกัน เช่น การใช้ถุงยางอนามัย ยา PrEP หรือ PEP เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

อ่านบทความอื่นๆ

ช่องทางการติดต่อเรา

  • ฮักษาคลินิก กลางเวียง เชียงใหม่

  • ตั้งอยู่ที่ 77/7 ถนน คชสาร ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่

  • เปิดบริการทุกวัน

    • จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 20.00 น.

    • เสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 18.00 น.

  • สอบถามผ่าน Line id. @hugsaclinic (มี @ ด้วยนะครับ)

  • เบอร์โทรติดต่อ ☎ 093 309 9988

  • แผนที่คลินิก 🚗 https://g.page/hugsa-medical?share

  • จองคิวตรวจออนไลน์ https://hugsa.youcanbook.me

ในปัจจุบันเอชไอวีสามารถควบคุมได้หากได้รับการตรวจพบและรักษาอย่างทันท่วงที การตรวจเอชไอวีจึงเป็นก้าวแรกในการป้องกันและรักษาโรคนี้ เพื่อให้คุณสามารถมีชีวิตที่ยาวนานและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ฮักษาคลินิก กลางเวียง เชียงใหม่ พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานสูงสุด เพื่อให้คุณมั่นใจในทุกขั้นตอนของการตรวจและรักษา หากคุณมีความเสี่ยงหรือกังวลเกี่ยวกับเอชไอวี อย่ารอช้า มาเข้ารับการตรวจเพื่อสุขภาพที่ดีและปลอดภัยในอนาคต

Comments


Commenting has been turned off.

77/7 ถ.คชสาร ต.ช้างคลาน อ.เมือง เชียงใหม่ ประเทศไทย
hugsacm@gmail.com

bottom of page