top of page

โรคเริม (HSV) สาเหตุ อาการ การรักษา

hivteam
โรคเริม (HSV) สาเหตุ อาการ การรักษา

โรคเริม เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อยในประเทศไทย โดยมีเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ซิมเพล็กซ์เป็นสาเหตุของโรคนี้ โดยมักแสดงอาการเป็นตุ่มน้ำใสที่ผิวหนังหรือเยื่อบุ ก่อให้เกิดความเจ็บปวดและรำคาญแก่ผู้ป่วย แม้ว่าโรคเริมจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่มีวิธีการรักษาเพื่อบรรเทาอาการและลดการแพร่กระจายของเชื้อ บทความนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโรคเริม สาเหตุ อาการ การรักษา และการป้องกัน

เริมคืออะไร?

เริมเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus หรือ HSV) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก

  1. HSV-1 (Herpes Simplex Virus Type 1): มักก่อให้เกิดเริมที่ริมฝีปากและบริเวณใบหน้า

  2. HSV-2 (Herpes Simplex Virus Type 2): มักก่อให้เกิดเริมที่อวัยวะเพศ

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองชนิดสามารถก่อให้เกิดเริมได้ทั้งบริเวณปากและอวัยวะเพศ ขึ้นอยู่กับการติดเชื้อ

การติดต่อและการแพร่กระจาย

เชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์สามารถแพร่กระจายได้ผ่านการสัมผัสโดยตรงกับบริเวณที่มีการติดเชื้อ โดยเฉพาะเมื่อมีแผลเปิดหรือตุ่มน้ำ การติดต่อสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายรูปแบบ เช่น

  • การจูบหรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีเริมที่ปาก

  • การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเริมที่อวัยวะเพศ

  • การใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า แปรงสีฟัน

ที่สำคัญ แม้ในช่วงที่ไม่มีอาการแสดง ผู้ติดเชื้อก็ยังสามารถแพร่เชื้อได้ แม้โอกาสจะน้อยกว่าช่วงที่มีอาการก็ตาม

เริมที่ปาก อาการ

เริมที่ปาก อาการ

เริมที่ปากหรือเริมริมฝีปาก (Cold sores หรือ Fever blisters) เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดของการติดเชื้อ HSV-1 มีลักษณะและอาการดังนี้

  • ระยะเริ่มต้น: มักมีอาการคัน แสบร้อน หรือรู้สึกเสียวซ่าบริเวณริมฝีปากหรือรอบปาก

  • ระยะตุ่มน้ำ: เกิดตุ่มน้ำใสเล็กๆ รวมกันเป็นกลุ่ม มักเจ็บเมื่อสัมผัส

  • ระยะตุ่มแตก: ตุ่มน้ำจะแตกและเกิดเป็นแผลตื้นๆ

  • ระยะสร้างสะเก็ด: แผลจะแห้งและมีสะเก็ดปกคลุม

  • ระยะหาย: สะเก็ดจะหลุดออกและแผลจะหายไปโดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็น

ระยะทั้งหมดนี้มักใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน อย่างไรก็ตาม เชื้อไวรัสจะยังคงอยู่ในร่างกาย และอาจกลับมาเป็นซ้ำได้เมื่อมีปัจจัยกระตุ้น

ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เริมกำเริบ

  • ความเครียด

  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงมีประจำเดือน

  • ภูมิคุ้มกันต่ำหรือมีไข้

  • โดนแสงแดดมากเกินไป

ฮักษาคลินิก กลางเวียง ทางเลือกในการรักษาเริมที่เชียงใหม่

ฮักษาคลินิก กลางเวียง ทางเลือกในการรักษาเริมที่เชียงใหม่

ฮักษาคลินิก สาขากลางเวียง เป็นหนึ่งในสถานพยาบาลชั้นนำในเชียงใหม่ที่ให้บริการตรวจและรักษาโรคเริม ตั้งอยู่ในย่านในเมืองของเชียงใหม่ ทำให้สะดวกในการเข้าถึงบริการ การรักษาเริม มีวิธีดังต่อไปนี้

การใช้ยาต้านไวรัส

ยาต้านไวรัสเป็นวิธีการรักษาหลักสำหรับโรคเริม ยาที่นิยมใช้ ได้แก่

  • Acyclovir (อะไซโคลเวียร์)

  • Valacyclovir (วาลาไซโคลเวียร์)

  • Famciclovir (แฟมซิโคลเวียร์)

ยาเหล่านี้มีทั้งแบบรับประทานและแบบทาเฉพาะที่ แพทย์จะพิจารณาสั่งจ่ายตามความเหมาะสมของแต่ละกรณี

การใช้ยาทาเฉพาะที่

นอกจากยาต้านไวรัสแล้ว ยังมียาทาเฉพาะที่ที่ช่วยบรรเทาอาการและเร่งการหายของแผล เช่น

  • ยาทาที่มีส่วนผสมของ Docosanol

  • ยาทาที่มีส่วนผสมของ Benzyl alcohol

การรักษาตามอาการ

  • ยาแก้ปวด เช่น Paracetamol หรือ Ibuprofen เพื่อบรรเทาอาการปวดและลดไข้

  • การประคบเย็นเพื่อลดอาการปวดและบวม

  • การใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด

การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล

  • ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังสัมผัสบริเวณที่เป็นเริม

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือแกะเกาบริเวณที่เป็นเริม

  • ใช้ผ้าสะอาดซับบริเวณที่เป็นเริมเบาๆ เพื่อให้แห้ง

บริการที่ฮักษาคลินิก สาขากลางเวียง

ฮักษาคลินิก มีการนำเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยมาใช้ในการวินิจฉัยและรักษา เช่น เครื่องตรวจ PCR ที่ให้ผลแม่นยำและรวดเร็ว การรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่เหมาะสม การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลตนเองและการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ การติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง คลินิกมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและโรคผิวหนัง ที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยโรคเริมโดยเฉพาะ

การป้องกันโรคเริม

การป้องกันโรคเริมเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาดและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ วิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพเริ่มจาก

  • การหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับบริเวณที่มีแผลเริมหรือตุ่มน้ำ

  • งดเว้นการจูบหรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีอาการของโรค

  • รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือบ่อยๆ

  • ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และลดความเครียด

  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์

  • หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคเริม

การดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยโรคเริม

การดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยโรคเริม

การดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่เป็นโรคเริม เพื่อลดความถี่และความรุนแรงของการกำเริบ รวมถึงการปรับตัวใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

การดูแลสุขภาพทั่วไป

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

  • พักผ่อนให้เพียงพอ

  • ลดความเครียด

การสังเกตอาการและการจัดการเบื้องต้น

  • เรียนรู้ที่จะสังเกตสัญญาณเตือนก่อนการกำเริบ เช่น อาการคัน หรือรู้สึกแสบร้อนบริเวณที่เคยเป็น

  • เริ่มการรักษาทันทีเมื่อมีสัญญาณเตือน เช่น การใช้ยาทาต้านไวรัส

การจัดการกับความสัมพันธ์

  • เรียนรู้วิธีการสื่อสารกับคู่รักหรือคู่นอนเกี่ยวกับโรคเริม

  • ใช้ถุงยางอนามัยและหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีอาการกำเริบ

  • ศึกษาเกี่ยวกับความเสี่ยงในการตั้งครรภ์และการคลอดบุตรสำหรับผู้ที่เป็นเริมที่อวัยวะเพศ

ช่องทางการติดต่อเรา

  • ฮักษาคลินิก กลางเวียง เชียงใหม่

  • ตั้งอยู่ที่ 77/7 ถนน คชสาร ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่

  • เปิดบริการทุกวัน

    • จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 20.00 น.

    • เสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 18.00 น.

  • สอบถามผ่าน Line id. @hugsaclinic (มี @ ด้วยนะครับ)

  • เบอร์โทรติดต่อ ☎ 093 309 9988

  • แผนที่คลินิก 🚗 https://g.page/hugsa-medical?share

  • จองคิวตรวจออนไลน์ https://hugsa.youcanbook.me

อ่านบทความอื่นๆ

ในจังหวัดเชียงใหม่ มีสถานพยาบาลที่มีความพร้อมในการให้การวินิจฉัย และรักษาโรคเริม เช่น ฮักษาคลินิก สาขากลางเวียง ที่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีทันสมัย ผู้ที่สงสัยว่าอาจเป็นโรคเริมหรือมีอาการกำเริบควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

Comments


Commenting has been turned off.

77/7 ถ.คชสาร ต.ช้างคลาน อ.เมือง เชียงใหม่ ประเทศไทย
hugsacm@gmail.com

bottom of page